กุสตาฟ มาห์เลอร์ (เกิด 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1860 - เสียชีวิต 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1911) เป็นคีตกวีและวาทยกรชาวโบฮีเมียน-ออสเตรียน มาห์เลอร์เป็นที่รู้จักในยุคของเขา ในฐานะวาทยากรชื่อดังแห่งยุค แต่ในปัจจุบัน เขากลับเป็นที่ยอมรับในฐานะคีตกวีแห่งยุคนีโอโรแมนติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากซิมโฟนี และบทเพลงในลักษณะซิมโฟนี เช่น เพลง Das Lied von der Erde (บทเพลงแห่งโลก) ที่เป็นจุดสุดยอดของบทเพลงขับร้องที่เขาประพันธ์ ส่วนซิมโฟนีหมายเลข 3 ความยาว 95 นาที นับเป็นซิมโฟนีที่ยาวที่สุดที่เคยมีการเปิดแสดง และยังชื่อได้ว่าเป็นซิมโฟนีที่ยาวที่สุดในบรรดาซิมโฟนีทั้งหลายอีกด้วย
กุสตาฟ มาห์เลอร์ เกิดในครอบครัวชาวยิวในเมืองคาลิชท์ แคว้นโบฮีเมีย บิดามารดาของเขาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองจิห์ลาวา แคว้นโมราเวีย จักรวรรดิออสโตร-ฮังกาเรียน ซึ่งมาห์เลอร์ได้ใช้เวลาในวัยเด็กส่วนใหญ่ที่นั่น หลังจากที่บิดามารดาของมาห์เลอร์ได้สังเกตเห็นความสามารถทางดนตรีของเขาตั้งแต่วัยเด็ก จึงจัดการให้เขาได้เรียนเปียโนตั้งแต่อายุหกขวบ ในปีค.ศ. 1875 มาห์เลอร์ผู้ซึ่งขณะนั้นมีอายุได้ 15 ปี ได้รับให้เข้าศึกษาในวิทยาลัยดนตรีแห่งกรุงเวียนนา ที่ซึ่งเขาได้เรียนเปียโนกับจูเลียส เอปสไตน์ สามปีต่อมา มาห์เลอร์ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเวียนนา ที่ซึ่งอันโตน บรูคเนอร์เป็นอาจารย์ประจำอยู่ ในระหว่างเรียนในมหาวิทยาลัย เขาได้ทำงานเป็นครูสอนดนตรีไปด้วย และได้ลองประพันธ์เพลงเป็นครั้งแรก กับเพลงร้องที่มีชื่อว่า Das klagende Lied ซึ่งตอนหลังได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นคันตาต้า ได้ส่งเข้าประกวดแต่ประสบกับความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ในปีค.ศ. 1880 มาห์เลอร์ได้เริ่มทำงานในตำแหน่งวาทยากร ซึ่งเป็นงานช่วงฤดูร้อนที่โรงละครแบดฮอลล์ ซึ่งในปีต่อ ๆ มาเขาได้เป็นวาทยากรในโรงอุปรากรใหญ่หลายแห่งด้วยกัน เป็นต้นว่า โรงอุปรากรเมืองลุบลานาในปีค.ศ. 1881 เมืองโอโลมุคในปีค.ศ. 1882 เมืองคาสเซลในปีค.ศ. 1884 กรุงปรากในปีค.ศ. 1885 เมืองไลพ์ซิจในปีค.ศ. 1886 และที่กรุงบูดาเปสต์ในปีค.ศ. 1888 ในปีค.ศ. 1887 เขาได้รับตำแหน่งเป็นวาทยกรควบคุมการบรรเลงอุปรากรชุดของริชาร์ด วากเนอร์ ที่มีชื่อว่าเดอะ ริง แทนที่อาร์ตู นิคิชที่ล้มป่วย และได้สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนและต่อนักวิจารณ์ ในปีหลังจากที่เขาได้ประพันธ์อุปรากรเรื่อง Die drei Pintos ที่ คาร์ล มาเรีย ฟอน เวเบอร์ประพันธ์ไว้ไม่จบ มาห์เลอร์ประสบความสำเร็จอย่างสูง อีกทั้งยังสร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับเขาอย่างมาก เขาได้รับตำแหน่งงานระยะยาวตำแหน่งแรกที่โรงอุปรากรแห่งนครฮัมบูร์ก ในปีค.ศ. 1891 จนกระทั่งถึงปีค.ศ. 1897 ในช่วงเวลานั้น เขาได้ใช้เวลาในช่วงพักร้อนที่เมืองสไตน์บาค-อัม-อัทเทอร์ซีในออสเตรียตอนบน อุทิศให้แก่การประพันธ์เพลง และได้แต่งซิมโฟนีหมายเลข 1 บทเพลงส่วนใหญ่ในเพลงชุดขับร้อง และแตรวิเศษของวัยเด็ก ซึ่งเป็นการรวมเพลงที่มีชื่อเดียวกันกับบทกวีพื้นบ้าน